ถ้ากล่าวถึง SSD ในตลาดตอนนี้มีหลายยี่ห้อมากในรูปแบบ NVME ที่แรงขึ้นกว่ารุ่นเดิมคือ WD BLUE SN550 นั้นเองครับ ซึ่งผมคิดว่าหลายคนคงได้สัมผัสและใช้งานเจ้าตัว WD BLUE SN550 ไปกันเยอะแล้วซึ่งความแรงก็ยังสร้างความประทับใจพร้อมราคาไม่แรง ส่วนรุ่นใหม่นี้ WD BLUE SN570 NVMe SSD ก็เรียกว่าก้าวข้ามของ Chip NAND Flash ที่อัพเกรดความเร็วแรงในการอ่านเขียนข้อมูลมากถึง 5 เท่าตัว (5X Speed) กล่าวคือรุ่น WD SN550 Speed เดิมอยู่ที่ Read Sequential 2400 MB/s , Write Sequential 1,590 MB/s (อ่านรีวิวเก่า https://www.cyberwakeup.net/2020/04/review-wd-blue-sn550-1tb.html)
ซึ่งถ้าดูปีที่ตัว WD BLUE SN550 ผลิตออกมาจำหน่ายก็ตั้งแต่ปี 2020 จนถึงปีนี้คือ 2022 ก็ห่างกัน 1-2 ปีเลยเชียวครับที่เทคโนโลยีการผลิตตาม Life Cycle จะถูกพลัดเปลี่ยนไป ซึ่งถ้าในแง่การใช้งานหลายคนรวมถึงผมเองก็มีซื้อมาใช้ด้วยเช่นกัน คิดว่าหลายคนใช้จนเป็น SSD รุ่นสามัญประจำบ้านไปแล้วล่ะครับ
การมาของ WD BLUE SN570 NVMe SSD ย่อมมีดีตรงที่การผลักความเร็วในแรงขึ้นดูน่าใช้งานมากขึ้นแต่ก็ยังคงอยู่บนรากฐานของมาตรฐาน Data Transfer PCIe Gen.3 x4 ซึ่งบางคนก็อาจจะมองได้ว่าเอ๊ะทำไม WD ไม่ออก Gen.4 x4 มาเลยนะ ถ้าส่วนตัวผมมองคงต้องบอกว่าเป็นเรื่องของราคาก็ส่วนนึงและ WD ก็ยังคงอยากให้ WD Blue อยู่ในตลาดกลุ่ม Mid Range ไปจนถึง Low Range ซึ่งผู้ซื้อสามารถจับต้องได้ง่ายและราคาไม่แพงแต่ยังได้ประสิทธิภาพการใช้งานที่ดีเยี่ยม
ข้อมูลเพิ่มเติม WD BLUE SN570 NVMe SSD 1TB : https://www.westerndigital.com/th-th/products/internal-drives/wd-blue-sn570-nvme-ssd#WDS100T3B0C
Appearance
ลักษณะตัว WD BLUE SN570 NVMe SSD 1TB
ต้องบอกว่าทาง WD ยังคงทำ SSD NVME แบบ Single face ก็คือวาง Chip ไว้หน้าเดียวโดยมีตัว Chip NAND Controller กับ NAND Flash ความจุ 1TB โดยใช้เทคโนโลยีจาก SanDisk บริษัทในเครือเดียวกันนำมาผลิตครับ
ด้วยความที่เป็นตัว PCIe Gen.3 x4 เรื่องความเข้ากันได้กับ Mainboard รุ่นเก่าที่ยังใช้ PCIe Gen.3 x4 สามารถใช้งานได้เลย รวมไปถึงหากใครใช้ Mainboard PCIe Gen.4 x4 ก็ยังเข้ากันได้ใช้งานได้ตามปกติเพราะส่วนใหญ่จะเป็น Compatible version ของมาตรฐาน PCIe ในการสร้าง Data Transfer
System Spec เครื่องที่ใช้ในการทดสอบ
Benchmarking
Application Test
ในความเป็นจริงการใช้งานหากเราต้องการ Data Transfer สำหรับโอนถ่ายข้อมูลที่สูง ๆ อันนี้ตัว WD BLUE SN570 NVMe SSD รองรับอยู่แล้วสบายหายกังวล แต่เมื่อใช้งานจริงกับ Application บางตัวในโปรแกรมเฉพาะทางเช่นงาน VDO Editing อันนี้ไม่น่ากังวลนะเพราะมันเหลือ ๆ อย่างเช่นโปรแกรมที่ผมนำมาลองอย่าง Adobe Premiere CC 2022 โดยไม่ต้องใช้โปรแกรม Adobe Encoder ในการ Export ก็ยังเขียนไฟล์ได้เร็วและ Bandwidth เหลือเอ่อต้องบอกงี้จริง ๆ แล้วตัวโปรแกรม Adobe เองเขาก็เหมือนจะยังไม่อัพเกรดให้รองรับการใช้งานช่วง Bandwidth ของ Hardware ได้ถึงที่สุดก็น่าจะใช่ด้วยดังนั้นสบายมากต่อให้เครื่อง Spec ตัวน้อยที่ผมใช้งานเอง
โดยใช้วิธีทำการ Editing แบบ Merge File VDO เข้าด้วยกันแล้ว Export ออกมา ก็ยังจับโยนไฟล์ แล้วกด Export ได้สบายครับ หรืออย่างโปรแกรมตัดต่อวีดีโอตัวฟรียอดนิยมอย่าง Blackmagic Design Davinci 17 รุ่น Free ซึ่งจะทำงานแบบเขียนไปด้วย Render ไปด้วยแบบ Real Time ก็ยังใช้งานได้สบาย ๆ เช่นกัน
ซึ่งประเภทไฟล์ที่เขียนเป็น .MP4 เช่นเดียวกัน แต่ความเร็วในการทำงานต่างกันนั้นมาจากการรองรับ Hardware หรือการดึงประสิทธิภาพด้าน Hardware ทั้ง CPU, GPU ที่ต่างกันด้วยครับ ซึ่งในแง่การเขียนไฟล์แล้วใช้ประสิทธิภาพของ SSD ได้เต็มที่ในช่วงท้ายของ Export ไฟล์ ตัวโปรแกรม Adobe Premier CS 2022 สามารถใช้ประสิทธิภาพของ SSD ได้เต็มทีกว่าผลก็คือช่วงที่เขียนไฟล์แบบ Final เมื่อได้ SSD ความเร็วการเขียน 3000MB/s อย่าง WD BLUE SN570 NVMe SSD ก็ช่วยลดเวลาการเขียนไฟล์ลงไปได้พอสมควรเลย แถมความเร็วยังเหลือหลายมากพอที่เราจะโยนไฟล์หรือทำงานอื่นไปได้ด้วยในขณะนั้นแบบ Multi-Tasking
*หมายเหตุ : ความเร็วในการ Render ยิ่งใช้เวลาน้อยยิ่งดีขึ้นอยู่กับประสิทธิภาพของ Hardware รุ่นใหม่ รวมไปถึง Software ที่สามารถรีดประสิทธิภาพของตัว Hardware ได้อย่างเต็มที่ด้วย *
Gaming
ซึ่ง WD BLUE SN570 NVMe SSD นั้นความเร็วการอ่าน - เขียน ข้อมูลรวดเร็วอยู่แล้วแบบเหลือ ๆ เลยครับผมจึงมองว่าถ้าเราซื้อมาใช้งานแบบนี้ก็ยังรองรับตอบโจทย์การใช้งานได้อย่างสบาย ๆ

0 ความคิดเห็น