ประเด็นข่าวสำคัญ: อินเทลประกาศขยายไลน์ผลิตภัณฑ์โปรเซสเซอร์โมบายล์ Intel® Core™ เจนเนอเรชั่น 12 ด้วยการเปิดตัวโปรเซสเซอร์โมบายล์ Intel Core เจนเนอเรชั่น 12 P-ซีรีส์ และ U-ซีรีส์ ใหม่ล่าสุดอย่างเป็นทางการ โดยโปรเซสเซอร์โมบายล์รุ่นใหม่ทั้ง 20 ตัวนี้ ได้รับการออกแบบมาเพื่อเพิ่มสมรรถนะและส่งมอบประสิทธิภาพการทำงานที่เหนือกว่า เสริมขุมพลังที่แข็งแกร่งให้กับแล็ปท็อปรุ่นใหม่ที่มีน้ำหนักบางและเบา โดยดีไวซ์เครื่องแรกๆ ที่ใช้โปรเซสเซอร์โมบายล์ล่าสุดนี้จะวางจำหน่ายในเดือนมีนาคม พ.ศ. 2565 เป็นต้นไป ซึ่งมีทั้งหมดกว่า 250 รุ่นจากแบรนด์ชั้นนำที่เตรียมเผยโฉมสู่ตลาดในปีนี้ อาทิ Acer, Asus, Dell, Fujitsu, HP, Lenovo, LG, MSI, NEC, Samsung ฯลฯ
“หลังจากการเปิดตัวโปรเซสเซอร์โมบายล์ที่เร็วและแรงที่สุดสำหรับคอเกมของเรา อินเทลพร้อมขยายไลน์ผลิตภัณฑ์ตระกูลโปรเซสเซอร์โมบายล์ Intel Core เจนเนอเรชั่น 12 อย่างเต็มกำลัง เพื่อส่งมอบขุมพลังทรงประสิทธิภาพก้าวสำคัญให้แก่แล็ปท็อปดีไซน์บาง น้ำหนักเบา ตั้งแต่ฟอร์มแฟคเตอร์บางเฉียบไปจนถึงประสิทธิภาพการทำงานระดับ Enthusiast Grade ที่มาพร้อมดีไซน์อันมีเอกลักษณ์โดดเด่น อินเทลพร้อมนำเสนอประสิทธิภาพแห่งความเป็นผู้นำและเทคโนโลยีล้ำสมัยแก่ลูกค้าผู้บริโภคและองค์กรธุรกิจอย่างต่อเนื่อง”
กรุงเทพฯ 24 กุมภาพันธ์ 2565 - เกี่ยวกับ โปรเซสเซอร์โมบายล์ Intel Core เจนเนอเรชั่น 12: เช่นเดียวกับผลิตภัณฑ์อื่นๆ ในตระกูลเจนเนอเรชั่น 12 โปรเซสเซอร์โมบายล์ใหม่ล่าสุดของอินเทล สำหรับแล็ปท็อปดีไซน์บาง น้ำหนักเบานั้น ถูกออกแบบโดยอิงจากสถาปัตยกรรมไฮบริดประสิทธิภาพของอินเทล ที่มีการผสมผสานระหว่าง Performance-cores (P-cores) และ Efficient-cores (E-cores) ไม่ว่าจะเป็นการใช้งานตั้งแต่วิดีโอคอล ไปจนถึงการท่องเว็บ หรือการแก้ไข ตัดต่อภาพต่างๆ ปริมาณเวิร์กโหลดจะถูกวางอย่างชาญฉลาด บนคอร์ที่ถูกต้อง ในเวลาที่เหมาะสม เพื่อการทำงานหลายอย่างพร้อมกันอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุดด้วย Intel® Thread Director บน Windows 11
ด้วยการใช้ประโยชน์จากประสิทธิภาพการทำงานต่อวัตต์อย่างเต็มที่จากระบบประมวลผล Intel 7 โปรเซสเซอร์โมบายล์ Intel Core เจนเนอเรชั่น 12 รุ่นใหม่นี้ นอกเหนือจากการออกแบบที่บางเบาแล้ว ยังมาพร้อมกับ:
สถาปัตยกรรมหลักใหม่ทั้งหมดที่มีมากถึง 14 คอร์ (6 P-cores และ 8 E-cores) กราฟิก Intel® Iris® Xe ติดตั้งในตัวที่มีหน่วยประมวลผลสูงถึง 96EU รองรับหน่วยความจำสำหรับ DDR5/LPDDR5 และ DDR4/LPDDR4 สเกลการทำงานที่น่าทึ่ง พร้อมประสิทธิภาพมัลติเธรดเร็วขึ้นสูงสุด 70% ประสิทธิภาพที่เร็วขึ้นเกือบ 2 เท่า สำหรับการเรนเดอร์งาน 3D – เหมาะสำหรับครีเอเตอร์ที่จำเป็นต้องเดินทางประสิทธิภาพการทำงานที่เหนือชั้นเพื่อการแก้ไขรูปภาพเร็วขึ้นสูงสุด 30%
Intel Wi-Fi 6E (Gig+) ในตัวเพื่อประสิทธิภาพไร้สายที่ดีขึ้น รวมไปถึงการตอบสนองและความน่าเชื่อถือที่มากยิ่งขึ้น
Thunderbolt™ 4 ทำให้การเชื่อมตัวด้วยสายเคเบิลป็นไปได้อย่างรวดเร็ว ง่าย และน่าเชื่อถือที่สุด ไม่ว่าจะเป็นการใช้เชื่อมต่อกับแท่นชาร์จ หน้าจอแสดงผล หรืออุปกรณ์เสริมอื่นๆ
Intel IPU 6.0 ยังมอบการแสดงผลคุณภาพสูงและการประหยัดพลังงานสำหรับประสบการณ์การใช้งานวิดีโอคอลที่ดีมากยิ่งขึ้น
ด้วยความร่วมมือด้านวิศวกรรมกับพันธมิตรทางธุรกิจถึง 150 ราย ทำให้คาดว่าจะมี Intel Evo มากกว่า 100 ระบบที่ผ่านการตรวจสอบในปีนี้ โดยสำหรับระบบในครั้งแรกนี้ จะรวมถึงจอแสดงผลแบบพับได้ และการออกแบบด้วย Intel Core H-series เจนเนอเรชั่น 12
การร่วมมือทางวิศวกรรมและการทดสอบใช้งานจริงของอินเทลในปีนี้ ได้ขยายขอบเขตไปยังพันธมิตรด้านอุปกรณ์เสริม ผ่านโปรแกรม Engineered for Intel Evo โดยคาดว่าจะมีมอนิเตอร์ Thunderbolt, แท่นชาร์จ, อุปกรณ์จัดเก็บข้อมูล และชุดหูฟัง Bluetooth เพื่อเข้าร่วมเป็นชุดอุปกรณ์เสริมอันทรงพลัง ซึ่งล้วนมีอยู่แล้วในโปรแกรมจาก Poly, Anker, Kensington, Dell, HP, Belkin, Samsung, Sabrent, OWC ฯลฯ
ข้อมูลเสนับสนุน:
ไมโครซอฟท์พานอส พาเนย์ รองกรรมการผู้จัดการและหัวหน้าเจ้าหน้าที่ผลิตภัณฑ์ของไมโครซอฟท์ กล่าวว่า “ในช่วงสองปีที่ผ่านมา ได้มีการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ที่ส่งผลต่อชีวิตของเรา ด้วยการมี PC playing ที่มีบทบาทมากกว่าที่เคย สิ่งนี้กำลังขับเคลื่อนยุคสมัยใหม่แห่งการใช้ PC ด้วยระบบปฏิบัติการ Window 11 และโปรเซสเซอร์โมบายล์ Intel Core เจนเนอเรชั่น 12 รุ่นใหม่ล่าสุด จะสร้างปรากฏการณ์เหนือระดับไปอีกขั้นเพื่อผลักดันความสามารถในการผลิตและความคิดสร้างสรรค์ใหม่ๆ”
ข้อมูลเพิ่มเติม: 12th Gen Intel Core (Press Kit)
หมายเหตุ:
สถาปัตยกรรมไฮบริดที่มีประสิทธิภาพ (Performance hybrid architecture) ผสมผลานระหว่าง 2 สถาปัตยกรรมไมโคร (Microarchitectures) คือ P-cores และ E-cores บนแม่พิมพ์เดี่ยว Processors ของ Intel Core รุ่นที่ 12 (รุ่นที่ 12 Core i5 และต่ำกว่า) จะไม่รองรับการทำงานของสถาปัตยกรรมไฮบริดที่มีประสิทธิภาพ จะรองรับรับแค่ P-cores เท่านั้น
Intel® Thread Director จะมาพร้อมกับตัวเครื่องสถาปัตยกรรมไฮบริดที่มีประสิทธิภาพของ Processors Intel Core รุ่นที่ 12 จำเป็นต้องมีระบบปฏิบัติการ (OS) โดยคุณสมบัติและฟังก์ชันจะแตกต่างไปตามแต่ละระบบปฏิบัติการ
ประสิทธิภาพต่าง ๆ ตามการใช้งาน การกำหนดค่า และปัจจัยอื่น ๆ เรียนรู้เพิ่มเติมได้ที่ www.Intel.com/PerformanceIndex
ผลลัพธ์ของประสิทธิภาพขึ้นอยู่กับการทดสอบ ณ วันที่ที่แสดงในการกำหนดค่าและอาจไม่สะท้อนถึงการอัปเดตที่เผยแพร่ต่อสาธารณะทั้งหมด โปรดดูการเปิดเผยการกำหนดค่าแบบรายละเอียด
1) ประมาณการโดยอิงจากการวัด SPECrate n-copy บน Intel® Core™ i7-1280P เจนเนอเรชั่น 12 เทียบกับ Intel® Core™ i7-1095G7 เจนเนอเรชั่น 11 การทดสอบ ณ วันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2022 สำหรับปริมาณงานและการกำหนดค่า โปรดดูที่ www.Intel.com/PerformanceIndex ผลลัพธ์อาจแตกต่างกันไป
2) ตามที่วัดโดยเกณฑ์มาตรฐาน Blender BMW การทดสอบ ณ วันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2022 สำหรับปริมาณงานและการกำหนดค่า โปรดดูที่ www.Intel.com/PerformanceIndex ผลลัพธ์อาจแตกต่างกันไป
3) วัดโดย PugetBench Photoshop การทดสอบ ณ วันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2022 สำหรับปริมาณงานและการกำหนดค่า โปรดดูที่ www.Intel.com/PerformanceIndex ผลลัพธ์อาจแตกต่างกันไป
4) เมื่อเทียบกับเทคโนโลยีการเชื่อมต่อ I/O แบบสองทิศทางของไคลเอ็นต์ PC ในปัจจุบัน เช่น eSATA และ USB ต้องเชื่อมต่อผ่าน Thunderbolt 3 หรืออุปกรณ์เสริมที่ใหม่กว่าเพื่อให้ใช้งานได้เต็มประสิทธิภาพ ดูรายละเอียดได้ที่ www.intel.com/PerformanceIndex (การเชื่อมต่อ) ผลลัพธ์อาจแตกต่างกันไป
0 ความคิดเห็น