รีวิว - Infinix Inbook X2 - Notebook จอสวย บางเบา ราคาเบาประสิทธิภาพดี

นาน ๆ เราจะได้ Notebook มารีวิวครับ ครั้งเป็นคิวของ Infinix ที่มีดีด้านดีไซน์สวยไม่พอประสิทธิภาพการใช้งานยังดีด้วยล่ะครับ ซึ่งเราได้รับมาทำการทดสอบกันในครั้งนี้ เป็นรุ่น Spec Intel Core i5 Gen 11th กับ GPU กราฟิก ที่ใช้งานได้หลากหลาย ทั้งทำงาน Office ขั้นพื้นฐาน หรือเบื่อ ๆ จะเล่นเกมก็พอได้ ตัดต่อ Clip VDO ก็พอไหวสบายผ่าน Intel QuickSync

แถมจุดเด่นหลักคือการออกแบบที่เน้นความบางเบา พกพาง่าย สีหน้าจอคมชัดกับค่าสี sRGB 100% และรองรับการชาร์จแบ็ตเตอร์รี่ได้รวดเร็วผ่าน USB Type C 65Watt  กับแบ็ตเตอร์รี่ที่ผมทดสอบการใช้งานต่อวันแล้วแบบรวม ๆ อยู่เกือบ ๆ 5-6 ชั่วโมง ซึ่งเพียงพอต่อการใช้งานแบบลืมพกที่ชาร์จไปได้เลย หรือถ้าไม่พกที่ชาร์จไปด้วยก็สามารถเอา Power Bank แบบ PD Charger มาจิ้มใช้งานได้ด้วยก็สะดวกดีครับ

Appearances











ชอบตรงนี้มีมาให้ครบเรื่อง Port USB Type C อีกช่องและช่อง Micro SD Card อันนี้ดีที่ไม่ตัดออกครับ รวมไปถึงยังให้ USB 3.0 มาให้อีก 1 ช่องและช่องเสียบหูฟัง 3.5 mm. อีก 1 ช่อง




จุดเด่นเรื่องตัวเครื่อง Infinix Inbook X2 ผมต้องขอบอกว่าเป็น Notebook ที่ดีไซน์ดูสวยเรียบง่ายมีหลากสีให้เลือกแต่เครื่องรีวิวที่ได้รับมาเป็นสีน้ำเงิน (Blue) ออกไปทางโทน Metallic  ตัวเครื่องน้ำหนักเบาเพียง 1.24KG จัดว่าเบามากขนาดผมยังชอบเลยครับ

Power Charger , Adapter 




Adapter Charger ขนาด 45Watt ผมเสียดายอย่างเดียวเท่านั้นคือตัวหัวชาร์จเป็นแบบมาตรฐานปลั๊กแบบ EU หัวกลมซึ่งมักชอบหลวมเมื่อเสียบกับเต้าปลั๊กบ้านเรา ที่จริงถ้าได้แบบมาตรฐาน US จะดีกว่ามากหัวแบบแบน


ขณะชาร์จจะมีไฟสถานะบอกด้านข้าง




ในแง่การชาร์จแบ็ตอันนี้ค่อนข้างประทับใจเนื่องจากตัว Infinix Inbook X2 นั้นรองรับการชาร์จเร็วผ่าน PD Charger แบบ 45Watt ซึ่งมีชุด Adapter Charger มาให้ด้วยในกล่อง และผมได้ลองเอา Power Bank PD 65Watt มาใช้งานชาร์จก็สามารถชาร์จได้ครับและแน่นอนว่ารองรับชาร์จไวทำให้เวลานำตัว Infinix Inbook X2 ไปใช้งานแค่พก Power Bank PD Charger ก็คล่องตัวไปอีก ส่วนการใช้งานต่อการชาร์จเต็ม 100% ต่อครั้ง ต่อวันเท่าที่ลองใช้งานจริงจะอยู่ได้ราว 6 ชั่วโมงกว่า หรือสูงสุด 7 ชั่วโมง 


แต่ถ้าหากเราไม่ทำอะไรแล้ว Standby เครื่องแบบให้อยู่ในโหมด Hibernate ต่อวันนี่อยู่ข้ามวันได้เลยหรือใช้ Power Saving Mode ก็สามารถช่วยประหยัด Battery ไปได้อีกมาก และเมื่อแค่เปิดฝาทำงานต่อได้อีกยาว ๆ จัดว่าเหมาะกับคนที่ชอบเดินทางบ่อย ๆ ได้อยู่นะ 


Tech Specifications


ในแง่ Spec สำหรับเครื่องรีวิวที่ผมได้รับมาจากทาง Infinix เป็นรุ่น CPU Intel Core i5 Gen 10th , SSD ความจุ 512GB , Ram 8GB 






Disassembly 

อีกข้อดีมาก ๆ สำหรับ Infinix Inbook X2 ที่ผมชอบคือด้านหลังฝาหลังถอดออกง่ายเหมาะสำหรับคนที่ต้องการอัพเกรดหรือแม้นแต่ช่างซ่อมตามร้านก็สามารถซ่อมเปลี่ยนอะไหล่ได้อย่างรวดเร็ว คือฝาหลังตัว Notebook Infinix X2 เนี่ยแค่ใช้บัตรอย่างบัตรสตาร์บั๊คกรีดรีดออกแล้วดันฝาก็ถอดออกได้แล้วล่ะครับ



ถอดง่ายมาก ๆ 


เพียงถอดน๊อตยึดฝาหลังแค่ 10 ตัวเท่านั้น

จุดที่ต้องระวังคือเขี้ยวที่ยึดฝาหลังกับตัวส่วนของตัวเครื่องตอนถอดฝา


รูปแบบตัวฝาหลังดูเรียบง่ายดี

ด้านในใต้ฝาหลัง

ชุดพัดลมระบายความร้อนมาพร้อมชุด Fin ช่วยในการระบายความร้อน เรื่องระบายความร้อนค่อนข้างดีใช้ได้เลยแต่ผมอยากแนะนำว่า ให้ดีนะถ้าคุณอยู่ห้องอุณหภูมิธรรมดาไม่ใช่ห้องแอร์ หาตัว Cooler PAD มาใช้ในการช่วยระบายความร้อนด้วยก็สามารถช่วยให้ความร้อนไหลออกได้ดีขึ้นหากเราทำงาน Full Load


ชุด SSD NVME ขนาด 512GB ความเร็วจัดว่าใช้ได้เลยและเป็นแบบ PCIe Gen.3 x4 ที่ให้ค่าอ่าน Sequential Read ที่ราว 2500MB/s , Sequential Write ที่ราว 1700MB/s แต่ตาม Spec จริงคือยี่ห้อนี้ FORESEE รุ่น G700 ขนาด 512GB ค่าความเร็วอยู่ที่ 2100MB/ , 1600MBs ซึ่งผมอาจจะไม่เป๊ะนะครับว่าใช่รุ่นตรงกันรึเปล่าเลยขออ้างอิงตามนี้

อ้างอิง : http://storage.yesky.com/103/725695603.shtml , https://www.prnasia.com/story/313279-1.shtml


ซึ่งในแง่คนที่อยากได้อะไรที่มากกว่า SSD ติดตัวเครื่องมาหากใช้ไปจนประกันตัวเครื่องหมดแล้วอยากอัพเกรดเพิ่มขนาดความจุ SSD ผมคิดว่าเป็นข้อดีที่เราสามารถทำได้ด้วยตัวเองด้วยแหละครับไม่ใช่เป็นแบบ On-Board ฝัง Embed มาเลยแบบนี้จะยากกว่ามาก ๆ อันนี้ผมยกประโยชน์ให้ Infinix Inbook X2 ที่ทำแบบนี้มาแบบ 10 เต็ม 10 ไม่หักเพราะอัพเกรด SSD หรือเปลี่ยนรุ่น SSD ได้ด้วยตัวเองที่อยากได้แบบดีกว่าฉันชอบรุ่นนี้อยากอัพอยากเปลี่ยนก็ทำได้เลยแบบง่าย ๆ ไรงี้

ระบบลำโพงอันนี้ต้องชม ใส่ให้มาเป็น Dual Speaker รองรับระบบเสียง DTS Audio Processing

ซึ่งกำลังขับเสียงที่ได้จัดว่าหากอยู่ในห้องนอนคนเดียวแล้วเล่นเกมก็เสียงดังดีแต่ไม่ใช่ว่าเสียงจะดีสุดนะคือพอเอาดูหนัง หรือเล่นเกมได้รู้เรื่อง

ข้อดีคือถ้าแกะซ่อมเปลี่ยนอะไหล่ถอดง่ายมากด้วยสำหรับชุดลำโพง

แบ็ตเตอร์รี่ขนาด 50Wh ซึ่งถ้าในระยะยาวคนที่ซื้อไปผมคิดว่าน่าจะหายห่วงถ้าหาแบ็ตเตอร์รี่เปลี่ยนเองได้ก็ไม่ยากนักครับ หวังว่าทาง Infinix จะมี Support เรื่องแบ็ตเตอร์รี่ให้ไม่ก็ลองเอาชื่อรุ่นแบ็ตตามในภาพไปค้นหาได้ครับ

ตรงข้อต่อบานพับจัดว่าแข็งแรงดีทีเดียว

ในภาพคือช่วงข้อต่อบานพับกับตัว Display หน้าจอเป็นชุดสายแพร์

จุดเดียวจริง ๆ ที่ทำให้หลายคนคิดหนักแต่ถ้าไม่คิดมากก็สอยใช้งานตัว Infinix Inbook X2 ได้อย่างสบายใจเลยคือเรื่องขนาดของตัว RAM ซึ่ง Spec ล่าสุดเป็น Spec Intel Core i3 ที่ให้ Ram มาขนาด 4GB แต่ถ้าเป็น Intel Core i5 จะได้ Ram 8GB และ Spec Intel Core i7 จะได้ Ram ขนาด 16GB ซึ่งใช้งานทั่วไปเอาจริง ๆ เหลือสบายอยู่ครับไม่ว่าจะ Ram 4GB ,8GB ,16GB เราสามารถเลือกให้เหมาะกับงบที่จ่ายได้ตามความเหมาะสมที่จะนำไปใช้งาน

Benchmark







ถ้ามองจุดเด่นของ Spec อย่าง Core i5 Gen 10th ที่ได้มาสำหรับเอามาเล่นเกมหรือทำงานกราฟิกแบบกลาง ๆ ผมมองว่าตัว Infinix Inbook X2 ก็ตอบโจทย์ได้ดีระดับนึงนะอาจจะไม่ดีสุดแต่ก็ใช้งานได้ 

Gaming

ในแง่การเอาตัว Infinix Inbook X2 มาเล่นเกมเท่าที่ผมเอามาลองเล่น World of Warships Blitz ผ่าน Steam โดยตั้งค่า Graphic Setting ปรับที่ Low , Medium สามารถเล่นได้เล่นไหลดีโดยเฟรมเรทอยู่ที่ราว 30-40FPS ซึ่งก็ถือว่าลื่นดีมากสำหรับการเล่นเกมประเภท Online แบบ Open World ที่มีกราฟิก Render ค่อนข้างเยอะครับ 















เล่นแบบ Full Screen 1080p จัดว่าเต็มตาเลยทีเดียวแถมเราได้เรื่องผลประโยนช์จากหน้าจอ sRGB 100% ทำให้สีสันตอนเล่นเข้าขั้นสดใสตรงใจมากทีเดียวเลยครับ

Built-In Camera



เท่าที่ลอง Web Cam ที่มีมาให้ เป็นขนาด HD Resolution 720p ก็จัดว่าพอไหวอยู่ครับสำหรับเอามาใช้ประชุม Online 

Built-In Microphone 


สามารถกดฟังได้เลยครับผมลองอัดเสียงแล้วอัพขึ้น Sound Cloud ซึ่งต้องยอมรับว่าคุณภาพเสียงจัดว่าทึ่งอยู่เหมือนกันสำหรับเสียงที่อัดจากไมค์ Built-In ของตัว Infinix Inbook X2 ซึ่งตาม Spec เห็นระบุไว้ว่ามีมาให้ 2 ชุดเลยสำหรบไมโครโฟนในตัว

ระบบ Bios









ถ้าสังเกตในภาพจะเห็นอย่างนึงคือค่า RAM ที่ให้มาเป็น LPDDR4 Bus 3200MHz เลยเชียวโดย CL อยู่ที่ 24-22-22-51 แต่ผมไม่แน่ใจนจะครับว่าใช่เม็ดแรมของ Micron หรือไม่ถ้าใช่ต้องบอกว่างานไม่ธรรมดาอยู่ล่ะ

Pros 



จุดเด่นของ Infinix Inbook X2 คือเรื่องการชาร์จเร็วและรองรับ PD Charger รวมไปถึง Port USB ที่ให้เมาเพียงพอต่อการใช้งาน หรือถ้าใครอยากขยายการเชื่อมต่อขยาย Port อาจจะหาตัว USB Extender HUB แบบ USB Type C มาเชื่อมต่อเพิ่มก็ได้เช่นกับเพราะให้มาอีก 1 Port หรือเสียบเข้าด้านที่เป็น PD USB เลยก็ได้แบบนี้สะดวกดี และเรื่องสีจอก็จัดว่าให้ค่าสีและความคมทั้งตัวอักษรที่คนทำงานด้านเอกสารน่าจะชอบเพราะตัวอักษรแสดงผลได้เนียนละเอียดอยู่พอตัว

Verdicts

ถ้าพูดสรุปแบบภาพรวมของ Infinix Inbook X2 ก็ต้องขอบอกอย่างนี้เลยครับว่าเป็นตัวเลือกที่น่าใช้มากจริง ๆ สำหรับคนที่กำลั๊งงกำลังมองหา Notebook เอาให้ลูกให้หลานนั่งเรียนออนไลน์ หรือคนที่ต้องการ Notebook ไว้ Work From Home หรือสายเดินทางไปทำงานต่างจังหวัด Out Side บ่อย ๆ อีกเรื่องที่ผมลืมไปคือเรื่อง Wi-Fi ตัว Infinix Inbook X2 ยังคงเป็น Wi-Fi 5 ก็คือรุ่น AC นะที่ให้มาในตัวแต่ก็จัดว่าใช้งานได้อยู่ครับก็ตามราคาค่าตัวเขาแหละเน๊อะ ส่วนการใช้งานต่าง ๆ ก็ตามที่เขียนและแนบภาพประกอบ กับจุดเด่นสำคัญ ๆ อันนี้น่าจะช่วยให้เห็นภาพได้ชัดเจนเป็นตัวประกอบการตัดสินใจได้ดีเชียวแหละครับ หากใครสนใจล่ะก็กดสั่งซื้อ Online ได้เลยผ่าน JD CENTAL ตาม Spec ราคากับมาพร้อม Windows 11 Home ให้เสร็จสรรพในตัว ไม่รวม Office 365 ที่อาจจะต้องไปซื้อแยกต่างหากดังนี้

รุ่น Intel® Core™ i3-1005G1 Ram 4GB SSD 256GB ราคา 12,490 บาท กดซื้อ https://u.jd.co.th/tdCyqlx

รุ่น Intel® Core™ i5-1035G1 Ram 8GB SSD 512GB ราคา 18,990 บาท  กดซื้อ https://u.jd.co.th/twCydya

รุ่น Intel® Core™ i7-1065G7 Ram 16GB SSD 512GB ราคา 21,990 บาท  กดซื้อ https://u.jd.co.th/tKCy8zh

ข้อมูลเพิ่มเติม : https://www.infinixmobility.com/laptops/inbook-x2/specs 

ขอขอบคุณ Infinix Thailand สำหรับการเอื้อเฝื้ออุปกรณ์รีวิวครั้งนี้

แสดงความคิดเห็น

0 ความคิดเห็น