นานแล้วล่ะครับไม่ได้จับรีวิวมือถือก็ต้องขอขอบคุณทาง Infinix ที่ส่งมาให้ลองใช้งานรีวิวครับ ซึ่งถ้าใครยังไม่เคยสัมผัส Infinix มาก่อนต้องบอกว่าเป็นแบรนด์ที่ทำสินค้าไอทีออกมาแบบในราคาจับต้องง่ายมากแถมสเปคดีน่าใช้แบบกำเงินซื้อไปแล้วยังรู้สึกได้เลยว่าคุ้มค่ากับเงินที่จ่ายออกไป และให้ฟิลลิ่งการใช้งานไม่แพ้แบรนด์อื่น ๆ ด้วยสเปคและราคาที่จับต้องได้ง่ายไม่แพงมากนักตอบโจทย์การใช้งานกับยุคปัจจุบันได้อย่างดีทีเดียว ในงบหลักพันบาทก็ได้มือถือ Smartphone ไว้ใช้งานขั้นพื้นฐานจนถึงระดับเล่นเกมได้อย่างลื่นไหลดี
ด้านสเปคต้องบอกว่าในราคา 4-5 พันบาทเดี๋ยวนี้ก็ได้ Ram 6GB , Rom 128GB ได้หน้าจอ Refresh Rate 90Hz , Charge เร็วไวผ่าน USB Type C 18W ใช้งานกันแล้วรวมไปถึง CPU เป็นแบบ Octa-Core ของ MediaTek รุ่น Helio G88 ความเร็ว 2.0GHz และที่ให้พลังขับเคลื่อนชิปเซ็ตกราฟิก Arm Mali-G52 MC2 มาให้ตัวความเร็ว 1GHz ซึ่งก็เพียงพอรันกราฟิกเกมระดับกลาง ๆ ได้สบายอยู่ล่ะครับ ในการทดสอบผมไม่ทดสอบอะไรมากนะเพราะเดี๋ยวนี้หันไปทางไหนมือถือกลุ่ม 4-5 พันบาทเนี่ย
งานประกอบตัวเครื่องจัดว่าทำออกมาได้ดีถึงบางคนบอกว่าเอ.. ทำไม Scan นิ้ว Unlock ยังเป็น Design ที่อยู่กับฝาด้านหลังอันนี้ผมอยากให้มองว่าในกลุ่มราคากลาง ๆ บางรุ่นบางยี่ห้อก็ยังนิยมใช้แบบนี้มีข้อดีอยู่เหมือนกันครับคือถ้าใช้การ Touch Unlock บนหน้าจอบางทีมัน Scan นิ้วแล้วไม่ติดก็มีครับเท่าที่ใช้อยู่กับมือถือ Samsung Galaxy Note10+ ก็ยังมีความเด๋อ ๆ ตรง Touch Unlock แบบนี้อยู่เช่นกันดังนั้นดีใจไปเลยว่าคุณยังมีนวัตกรรมแบบเดิมแต่แสนเวิร์คในราคาที่ถูกลงให้ใช้งานในจุดนี้ฮา
คือสเปคไล่เลี่ยกันเยอะมาก แต่เราอาจจะเห็นจุดต่างของ Infinix ตรงที่เป็นสมาร์ทโฟน ที่ตอบโจทย์กลุ่มผู้ใช้นักเรียนนักศึกษาที่งบไม่เยอะได้ดี อย่างน้อยเรื่องกล้องพอไปเปิดดูบนหน้าจอคอมแบบเต็ม ๆ จัดว่าอยู่ในเกณฑ์ดี ถึงโทนสีภาพจะไม่จัดจ้าน
แต่ก็ให้ภาพแบบที่ตัวกล้อง Image Processing กับ Software แล้วภาพออกมาจัดว่าไม่เลวร้ายเลยกับขนาดจำนวน Pixel รวม 50MP จากทั้งหมด 3 เลนส์ และสามารถถ่ายภาพกลางคืนได้ค่อนข้างใช้ได้คือพอรับได้ถึงแม้นเครื่องนี้เป็นเครื่องเทสรีวิวก็ตาม ซึ่งอาจจะมีจุดบกพร่องของ Software อยู่บ้างแต่ผมเชื่อว่าถ้ามี OTA อัพเดตเรื่องกล้องมาเราอาจจะไม่เจอจุดที่เป็นเส้น ๆ ในการถ่ายภาพกลางคืนครับ
แต่ถ้าเป็นสภาพแสงกลางวันต้องบอกเลยครับว่าเป็นสมาร์ทโฟนที่ถ่ายภาพสนุกดีครับชัตเตอร์กดแล้วทำงานไวดี
ส่วนภาพถ่ายอาหารก็พอใช้ได้อยู่ครับ
https://photos.app.goo.gl/P4z1x56HvN8v9fuh9
กล้องหน้าก็พอใช้ได้ในการเก็บรายละเอียดทั้ง Subject และ Background หลัง
ส่วนหน้าจอต้องบอกว่าทำออกมาดีไม่น้อยเลยเราสามารถปรับเลือกได้ว่าจะใช้งานหน้าจอที่ความถี่ Refresh Rate เท่าไหร่ 60Hz หรือ 90Hz
ซึ่งการมีให้เลือกการปรับค่าความถี่การแสดงผล Hz ของจอเป็นเรื่องดีครับบางคนอาจจะไม่ได้ใช้งานแบบที่ให้กินพลังงานแบ็ตเตอร์รี่ ใช้งานทั่วไปก็ปรับไปใช้ 60Hz ก็เพียงพอแล้วล่ะ แต่ถ้าเขยิบไปเล่นเกม ก็อาจจะปรับไปใช้ความถี่การแสดงผลภาพที่ 90Hz แทนส่วนเรื่องเกมผมไม่ห่วง Gaming Performance ล่ะครับเท่าที่ทดสอบคือเล่น ROV 30FPS ก็ลื่นอยู่ครับ แต่เท่าที่ลองโดยใช้แอป Hack unlock ค่าเฟรมเรทพื่อให้ตัวเกมรันได้ 60FPS ได้สำหรับตัว Infinix Hot 11S นั้นไม่รองรับการใช้งานครับ ซึ่งถ้าใครไม่ซีเรียสก็ยังเล่นเกมได้ลื่นไหลสนุกอยู่ครับแบบ 30FPS นิ่ง ๆ เลย ส่วนตัว OS เองของ Infinix ก็มีฟีเจอร์เสริมมาให้ก็คือ XOS ที่เสริมพลังการประมวลผลเมื่อเราเล่นเกมทำให้เล่นเกมได้ลื่นไหลเฟรมเรทที่ได้ไม่ตกมากนัก
Verdict
ถ้าผมสรุปก็คงต้องบอกแบบนี้ครับเอาเรื่องตัวเครื่องก่อนโดยรวมงานประกอบตัวเครื่องจัดว่าทำมาได้ดีลูกเล่นเยอะ กล้องก็ใช้ได้ดีระดับนึงตามราคาที่เราจ่ายไป ถึงตัวเครื่องเทสออกมาไม่นานแต่ผมเชื่อว่าถ้า Rom ได้ถูกปรับแต่งให้ดีขึ้นน่าจะช่วยให้ผู้ใช้ถ่ายภาพสนุก ๆ มากขึ้นโดยเฉพาะในโหมด Low Light ที่มีเส้น ๆ อยู่อาจหายไปและภาพดีขึ้นด้วยครับ เรื่องแบ็ตเตอร์รี่ 5,000mAh ดูเหมือนว่าเป็นมาตรฐานไปแล้วในทุก ๆ แบรนด์ที่ทำออกมา แต่จุดเด่นที่ผมชอบเท่าที่ลองคือการชาร์จไว คือทำได้ไวดีมากชาร์จเร็วจริง
ส่วนการเล่นเกมอันนี้ไม่ห่วงนะขอเสริมตรงภาพที่ว่ามือถือราคา 5 พันกลาง ๆ ทำได้ขนาดนี้ก็แจ่มแล้วล่ะครับโดยเฉพาะเล่นเกมอีกเกมคือ Genshin Impact ได้ 30FPS ลื่นอยู่ได้สบาย ๆ ส่วน 60FPS อาจจะติดหน่วงเยอะอันนี้ไม่แนะนำให้ปรับการตั้งค่ากราฟิกขึ้นสุดนะมันจะดึงระบบตัวเครื่องมากเลยล่ะครับ
ขอขอบคุณทาง Infinix ประเทศไทยเอื้อเฝื้อ Infinix Hot 11S มาให้ทดสอบครั้งนี้

































































0 ความคิดเห็น