เมื่อพูดถึง SSD หลายคนคงนึกถึงยี่ห้อติดปากติดตลาดอันดับต้น ๆ คงหนีไม่พ้น WD , Seagate , Corsair , Samsung โดยเฉพาะเมื่อเทคโนโลยี PCIe Gen 4.0 มาถึง การเปลี่ยนแปลงในการผลิต NAND Flash 3D ก็ปรับเปลี่ยนไปด้วย ตามมาตรฐาน PCIe Gen ใหม่ ๆ โดยมันสามารถคุยกับ CPU ได้รวดเร็วขึ้นมากกว่าเดิม หรือส่งข้อมูลได้เร็วมากกว่าที่เราเคยเจอมาตอนใช้ Gen 3.0
ขนาด Gen 3.0 ที่นิยมใช้แพร่หลายด้วยราคาที่แตะถึงกันไม่ยากแล้วทั้งความจุความเร็วที่หลายคนสัมผัสแล้วโอเคกับมัน แต่ก็จะมีกลุ่มผู้ใช้ระดับ High Performance , Power User High-End ที่ต้องการอะไรที่พิเศษกว่านั้นต้องเร็วแรงเพื่อการทำงานที่มากกว่าเดิม เช่นเอาไปเขียนข้อมูลที่ไวกว่ามาก ๆ ในงานเช่นด้านประมวลผลข้อมูลไม่ใช่แค่ระดับเกมมิ่งเท่านั้นครับ ว่าแล้วก็มาดูชมประสิทธิภาพกับตัว WD Black SN850 1TB ตัวใหม่นี้กันดีกว่าAppearance
หน้าตากล่องก็ไม่ต่างจากรุ่นพี่ SN750 นะ
แต่สิ่งที่ต่างไปคือ... ความแรง 7000MB/s มาเต็มในค่าอ่านเขียนเรียกได้ว่า อือหื้อคนทำงานทั้งหลาย
หน้าตาชัด ๆ
หลายคนสงสัยว่าเอ๊ะแล้วด้านหลังเป็นหน้าเดียวป่าว คืออยากบอกครับว่าปัจจุบันนี้หลายแบรนด์ทำ SSD NVME มาหน้าเดียวกันหมดแล้วครับไม่มี 2 หน้าแบบเมื่อก่อนแล้วล่ะ เพราะด้วยเทคโนโลยี 3D NAND ที่ผลิตออกมาทำให้หน่วย DIE เล็กลงด้วยแหละ
ลองเทียบกับ SN750 รุ่นพี่ที่ผมใช้งานอยู่ ถ้าดูเผิน ๆ นี่ไม่ต่างเลยครับ และถ้าสังเกตดี ๆ ตัว Chip NAND ตีตรา SanDisk มาเต็มอิอิ ก็คือบริษัทเดียวกันกับ WD นี่แหละ
WD SN850 1TB - Tech Spec
นับเป็นเครื่องมือที่ขาดไม่ได้ที่ต้องมีติดตั้งไว้ในเครื่องเอาไว้ดูกราฟ Performance , อุณหภูมิการทำงานของตัว SSD รวมไปถึงเอาไว้ Enable Game Mode เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของ SSD ซึ่งถ้าไม่รันเกมก็มีผลที่ดีกว่าการไม่ Enable ถ้ามองในอีกแง่มันก็คือการสร้าง Caching ให้ SSD ทำงานได้ไวขึ้น
System Test Bed
- CPU : AMD Ryzen 7 5800x
- Mainboard : MSI X570 Gaming Edge Wi-Fi (Bios ver : 7C37v1D - (Release Date : 2021-01-26) ** Bios รุ่นนี้รองรับ RX6800 ครับ และรองรับเข้ากับ CPU AMD Ryzen 5000 Series และ SSD NVME Gen 4.0 ได้เต็มประสิทธิภาพด้วยใครมีเมนบอร์ดรุ่นนี้ใช้งานอยู่อย่าลืมไปอัพเดต Bios กันด้วย : https://www.msi.com/Motherboard/support/MPG-X570-GAMING-EDGE-WIFI#down-bios
- RAM : Crucial Ballistix 32GB DDR4 Bus 3600MHz CL16
- VGA : RADEON RX6800
ด้วยความที่ Bios AGESA ออกมาภายหลังของ MSI คือกว่าจะออกก็นานแต่ก็มาทันที่ได้รับ WD Black SN850 พอดี เลยได้ฤกษ์อัพเกรด Bios ก่อนครับ
ซึ่งตอนนี้ออกมาคือ Ver. ComboAM4PIV2 1.2.0.0 โดยตัว Mainboard MSI X570 Gaming Edge Wi-Fi ก็ได้รับการรองรับ WD Black SN850 เรียบร้อยแล้วซึ่งน่าจะมาช่วงที่ SN850 จาก WD ลงสู่ตลาดใหม่ ๆ นั้นเลยครับ
ถ้าเราไม่อัพเดต Bios บางทีก็อาจจะไม่เจอตัวนะ โดยเฉพาะเมื่อเรานำเอา AMD Ryzen 5000 Series มาใส่
เพราะเท่าที่ผมลองกับ AMD Ryzen Pro 4650G มันจะใช้งานร่วมกับ SSD PCIe Gen 4 ไม่ได้ครับ ดังนั้นใครงง ๆ (ผมงงก่อนแล้วฮา) ก็อย่าลืม 1) หา CPU Ryzen 5000 Series มาใช้ และอัพเดต Bios ใหม่ก่อนก็ประมาณนี้ตามภาพประกอบคือเห็นชัดเจนเปิดติดบูธได้
Benchmark
ให้ดูภาพรัว ๆ เดี๋ยวสรุปทีเดียวยุคนี้เขียนอะไรก็เอาสรุปจบไปเลยดีกว่าไม่ต้องว่ายาวอิอิ โดยโปรแกรมทดสอบผมมีใช้ทดสอบในมือก็มี PassMark - Performance Test 10 , AIDA 64 , Crystal Disk , AS SSD แค่นี้ก็ทำให้มองเห็นหลายอย่างล่ะ รวมไปถึงลองเทสอ่านเขียนไฟล์ตอนกด Render VDO ด้วยในตัว กับโปรแกรม Davinci Resolve ตัว Version 16 (free) กับ Real World Copy File
IOPS Test - Throughput
เหตุผลที่ผมเอา ค่า IOPS ขึ้นมาให้ชมก่อนเพราะคิดว่า การที่ SSD แบบแรง ๆ ที่ระบุในสเปคไว้คือ Read 7000MB/s เนี่ยมันน่าสนใจที่จะส่องดูว่า IOPS Input , Throughput ได้เท่าไหร่ ซึ่งบางทีมันสำคัญสำหรับงานบางประเภทเช่นงานด้านการเขียนไฟล์บ่อย ๆ เช่นงานโอนไฟล์ไปมา การ Copy File
ส่วนการทดสอบแบบทั่วไปกับโปรแกรมยอดนิยมง่าย ๆ อย่าง Crystal Disk Mark 8 ต้องบอกว่าน่าพอใจ
ผลทดสอบแรงแบบตรงตามสเปคเป๊ะ ๆ ได้ 7000MB/s ก็ไม่น่าผิดหวังสำหรับคนที่กำลังคิดจะซื้อไปใช้งาน
อีกการทดสอบที่คิดว่าน่าสนใจผ่าน PassMark Disk Speed Test ซึ่งจะแบ่งการตามตัวเลือกตั้งแต่การจำลองการทำงานบน Server ประเภทต่าง ๆ เช่น Work Station , File Server , Data Base Server เป็นต้น ผลก็ออกมาในแง่ Latency ที่ได้จัดว่าสูงสุดทีเดียว ซึ่งสามารถทำได้สูงสุดในความเร็วประมาณ 1200MB/s
Real World Copy File
เรื่องความร้อน
ขอขอบคุณทาง WD Thailand เอื้อมเฝืออุปกรณ์รีวิวในครั้งนี้
บอกได้แค่ว่า ใครจะคิดซื้อไปใช้กับ Notebook "โปรดหนีไป" หารุ่นอื่นเพราะร้อนแล่บมากครับ ตามสำนักรีวิวอื่น ๆ ก็จะเทสตอน Full Load ได้กัน 80-90 องศา จัดว่าร้อนแรงเลยล่ะครับ ซึ่งผมคิดว่าทาง WD น่าจะไปแก้ไขเรื่องนี้ในรุ่นถัดไป เพราะ SN750 ทำไว้ดีมากแล้ว Full Load 60-70 องศาเท่านั้นสำหรับรุ่นพี่อย่าง SN750
Verdict
ถ้าในพูดหรือบอกต่อในความคิดผมสำหรับ WD SN850 ที่มีพัฒนาการไปสู่เทคโนโลยี I/O PCIe Generation 4 นั้นมีความน่าสนใจอยู่ไม่น้อย อย่าง Chip Controller ที่รองรับ และความเร็วที่ได้ก็ตรงตาม Spec ที่อ้างอิงไว้ข้างกล่องพอดีเป๊ะ แต่อย่างที่เห็นอุณหภูมิที่ได้ +_+ คนจะคิดซื้อ มาใช้กับ Notebook มีร้องเจี๊ยกได้เลยเพราะร้อนแรงมากครับ ดังนั้นส่วนตัวผมคิดว่า Notebook ยังคงต้อการ SSD ที่มีการแผ่ความร้อนที่ไม่สูงเพื่อคงประสิทธิภาพได้ดี
แต่สำหรับ Desktop PC ระดับ High Performance และทำ Flow ทางดี ๆ ในเคสอาจจะช่วยลดได้แต่ในผลทดสอบนี้ ผมเทสบน Test Bed อยู่ในห้องแอร์ 25 องศาคงที่ตลอดเวลา อาจจะมีค่าต่างกันเพราะไม่ได้มีการจัดทางลม Air Flow วิ่งผ่านเมนบอร์ดและอุปกรณ์อื่น ๆ ก็ฝากไว้ในคิดก่อนจะไปซื้อว่าอะไรเหมาะสมกับการนำไปใช้งานครับ
ส่วนการนำมาใช้สำหรับงาน Production เช่นการสร้าง VDO Content ตัดต่อ VDO กับเครื่อง Desktop อันนี้สบายครับจัดไปเลยไม่ติดปัญหาว่าจะแฮงค์หรือน๊อคนะ อีกเรื่องที่อยากย้ำ คือการจะซื้อ SSD PCIe Gen 4 ควรดู Spec เราก่อนด้วยครับว่าคอมเรารองรับหรือไม่ รวมไปถึง CPU ด้วยเพราะคำสั่งใน CPU ก็มีผลต่อการทำงานรองรับกับเทคโนโลยี PCIe Gen 4 ด้วยเช่นกัน ฝากไว้เท่านี้สวัสดีครับ
ขอขอบคุณทาง WD Thailand เอื้อมเฝืออุปกรณ์รีวิวในครั้งนี้
0 ความคิดเห็น