พร้อมเปิดตัวกราฟิการ์ดรุ่นใหม่ NVIDIA GTX 1660Ti , GTX1650 สำหรับ Gaming Notebook
ทาง NVIDIA ได้ทำการอัพเดตข่าวสารผลิตภัณฑ์และเทคโนโลยีที่กำลังจะเกิดขึ้นถัดจากการเปิดตัวกราฟิกการ์ด RTX มาสู่ GTX1650 ตัวใหม่ล่าสุดทั้งสำหรับฝั่ง Gaming PC Desktop
อธิบายถึงเทคนิคการทำงานของ Float & Integer ว่ากราฟิกการ์ดแต่ล่ะรุ่นที่ออกมา จำนวนชุดคำสั่ง Float & Integer ไม่เท่ากันมีผลต่อการเล่นเกมและการส่งข้อมูลในท่อ (Pipe Line) ก็คือที่มาของความเร็วและประสิทธิภาพของตัวชิปกราฟิกที่ต่างกันจะแสดงผลช้าเร็วก็อยู่ที่ท่อและจำนวนชุดคำสั่งนี่แหละครับ
สไลด์นี้กว่าถึงวิธีการโหลด และเก็บข้อมูลไปพักใน Cache แบบเทียบสถาปัตยกรรมต่อสถาปัตยกรรมระหว่าง ของ Pascal VS TURING ตัวใหม่ ซึ่งมีข้อแตกต่างกันชัดเจนมาก ที่ชัดเจนก็ตรงที่การทำงาน Turing ทำงานได้ดีกว่า Pascal อย่างเห็นได้ชัดครับเพราะจำนวน Cache ที่ใหญ่ขึ้นและแยก L1 เป็น 2 ชุด ผนวกกับ วิธีการโหลดข้อมูลแบบขนานกันแยกเป็น 2 ชุด
ADAPTIVE SHADING จะถูกใส่เข้ามาใน DirectX 12 ตัวที่อัพเดตจาก Microsoft ใหม่ ถ้าให้พูดง่าย ๆ ก็คือผ่าน Windows Update นั้นเอง ซึ่งจะทำให้ความละเอียดของจำนวน Pixel มีประสิทธิภาพการแสดงผลที่ละเอียดขึ้นกว่าเดิม Shade สีแสงก็เข้มข้นขึ้นนั้นเอง
Technology การแสดงผลภาพมีการพัฒนาและวิวัฒนาการไม่หยุดยั้น จากการใช้ Direct X สู่ DXR ( DirectX Raytracing - API ) ซึ่งเป็นการพัฒนา API สำหรับการใช้งานแสดงผลภาพที่ทำให้เราเห็น Model 3D ได้คมสวยยิ่งขึ้นกว่าที่เคยเป็น - อ้างอิง : https://developer.nvidia.com/taxonomy/term/966
ตัวอย่าง Model 3D ที่ออกแบบโดยใช้ Ray Tracing เข้ามาช่วยในการแสดงผล
ได้มิติภาพทั้งแสง สีที่สมจริงมากขึ้น
สำหรับ Engine ที่ใช้พัฒนาเกมโดย Support การทำงานของ DXR ด้วย
ก็จะมีทั้ง Unreal Engine และ Unity
ส่วนกลุ่มบริษัทผลิตสร้างสรรค์เกมสู่ตลาดที่เข้ามาร่วมวงผลิตเกมโดยใช้ Technology DXR มีตั้งแต่ EPIC Games , Piranha Games, Nexon , 34BigThings ที่จริงมีเยอะกว่านี้ครับ
การรวม Ray Tracing เข้ากับ Engine ของ Unity ทำให้เราเห็นผลลัพธ์ที่ดีขึ้น
ของการแสดงผลแสงและเงาใน Model 3D กราฟิก
สไลด์นี้แสดงวิธีการทำงานของ DXR ว่ามันทำงานอย่างไร
มีการลด Noise ให้หมดไปเพื่อให้ได้ภาพที่เนียนขึ้น
การยิงแสงเงาสะท้อนในทิศทางมุมตกกระทบอย่างไรกับวัตถุ Model 3D เพื่อให้ภาพดูดีสมจริง
ว่าเปิดแสงเงาสะท้อนสุดแล้วเจอ Advanced Reflections เพิ่มแสดงเงาตกกระทบขั้นสุด
ทำให้ภาพออกมาสมจริงเหมือนที่เราเห็นในโลกจริงเลยทีเดียว
กราฟเทียบประสิทธิภาพเมื่อใช้ DXR ที่มาจากการเปิด Ray Tracing : Refelction (เงาสะท้อน) กับเกม Battlefile V ที่ความละเอียด 2560 x 1440 กับ Ultra DXR , เทียบเฟรมเรทระหว่างรุ่นกราฟิกการ์ดตั้งแต่ GTX 1060 ถึง RTX 2080 Ti กับ System Intel Core i9 7900K , Ram DDR4 16GB , Windows 10 x64
เทคนิคการไล่เฉดแสงเงา เรียกได้ว่า DXR กับ Ray Tracing มีส่วนช่วยปฎิวัติ
กราฟิกเป็นอย่างมากให้กับงาน 3D Model ที่จะทำให้ภาพออกมามีมิติสมจริงที่สุด
กราฟเทียบประสิทธิภาพต่อเฟรมเรทระหว่างชิปกราฟิกตั้งแต่ GTX 1060 ถึง RTX 2080Ti โดยผ่านเกม Shadow of the Tomb Raider ในส่วนการแสดงผลประสิทธิภาพของ เงาตกกระทบในช่วงการ Render เล่นเกมทำให้เราเห็นได้อย่างชัดเจนว่า ถ้าได้กราฟิกการ์ดรุ่นท๊อปการเล่นเกมได้เฟรมเรทสูงขึ้นมีผลจริง ๆ เป็นอย่างมาก
เทียบประสิทธิภาพกราฟิการ์ดตัวต่อตัวเมื่อเปิดใช้งาน Advance Reflections และเปิดแสงเงาพร้อมกัน จะเห็นได้ถึงประสิทธิภาพที่สูงขึ้นเมื่อใช้กราฟิกการ์ดรุ่น RTX Series
Ambient Occlusion - ลักษณะของเงาสะท้อนกลับออกจากมุมนึงของวัตถุ ถ้ามีตัวนี้เวลาเปิดคำสั่ง RTX On เราจะเห็นเงินสะท้อนออกจาก Model 3D ออกมาที่จอภาพแบบชัดเจนเลย
เทียบประสิทธิจากการใช้งาน 2 เทคนิคร่วมกันคือ Advance Reflections
และ Ambient Occlusion กับชิปกราฟิกการ์ดแต่ล่ะรุ่น
อีกรูปแบบคือรูปแบบของแสงเงาตกกระทบแบบรอบด้าน Global Illumination
ก็ยังเห็นได้ชัดเจนอยู่ดีว่าถ้าเป็นกราฟิกการ์ดที่เป็นกลุ่ม RTX มันทำงานได้ดีกว่าเมื่อเราต้องการเปิดใช้ RTX On ก็คือพวกคำสั่งที่ทำให้ภาพเกิดแสดงเงาสะท้อนบนวัตถุได้ดีกว่า GTX อย่างชัดเจน
ภาพรวมการทำงานของ RT แต่ล่ะ Workload มีจุดแตกต่างกันไปแต่สุดท้ายมันก็จะจบที่
แบบ Global Illumination ครับเป็นแบบภาพรวมที่เห็นได้ชัดที่สุด
ตัวกราฟิกการ์ด NVIDIA ที่รองรับ DXR มีมากกว่าสิบล้านตัวแล้ว
ทั้งจากรุ่นเก่าโครงสร้าง Pascal GTX และ RTX 1000 Series
รวมไปถึงฝั่ง Workstation Graphic Card อย่าง Volta V และ Turing RTX , Titan RTX
สุดท้ายสิ่งที่เราเห็นในสไลด์นี้สำหรับด้านเทคนิคอลของกราฟิกการ์ด
คือได้เห็นชื่อของ GTX 1650 ซึ่งเปิดตัวขายจริงทั่วโลกวันที่ 23/04/2019
สไลด์นี้บอกถึงตัวเกมที่หลายคนได้สัมผัสบ้างแล้วรวมไปถึง 3DMark Benchmark ที่ได้ทำการอัพเดตตัวเองให้รองรับกับการใช้ประโยชน์จาก Technology - Ray Tracing
ในวงการ eSport ในระดับการแข่งขันของมืออาชีพ ซึ่งต้องบอกว่า NVIDIA มีบทบาทสำคัญในการผลักดันวงการเกมซึ่งสไลด์นี้คงตอบอะไรได้หลายอย่างเลยทีเดียว
กราฟแสดงจำนวน 5 Games ยอดนิยมที่ใช้แข่งขันใน eSports ไม่น่าเชื่อว่าเกม League of Legends คือเกมที่มีคนแข่งขันและเงินรางวัลสูงที่สุด รองลงมาก็เป็น CSGO , Fortnite , PUBG และ Overwatch
ในส่วนนี้ทาง NVIDIA ได้อธิบายไว้ว่าถ้ามีกราฟิกการ์ดที่ดีประมวลผลเร็ว Latency ต่ำมันช่วยให้เล่นเกมได้ราบรื่นไหลทำให้มีโอกาสที่จะชนะในเกมที่แข่งขันได้มากขึ้น อันนี้น่าคิดเหมือนกันครับเพราะถ้าอุปกรณ์ดี เครื่องคอมพิวเตอร์สำหรับเล่นเกมดีทำงานไร้ปัญหาก็มีชัยไปกว่าครึ่งนั้นเอง
สไลด์นี้ระบุถึงจำนวนผู้ใช้กราฟิกการ์ดใหม่ที่นำมาเล่น PUBG ถ้าเห็นได้ชัดเจนเลยคือคนเริ่มเบนเข็มหาซื้อกราฟิกการ์ดตัวรุ่น GTX 1000 Series มากขึ้นแต่มากขึ้นไปอีกคือเริ่มเปลี่ยนไปสู่ RTX 2000 Series
ในส่วนนี้สไลด์นี้ทาง NVIDIA ยังบอกกับเราว่าถ้าได้กราฟิกการ์ดีโอกาสที่จะได้พัฒนาทักษะให้ดีขึ้นก็สามารถทำได้เช่นกันเพราะถ้าภาพกราฟิกในเกมไหลลื่นดี ผู้เล่นก็สามารถเล่นเกมได้ดีขึ้นไปด้วย
มาถึงช่วงของ Technology G-SYNC ที่หลายคนอยากได้จอ Monitor ที่รองรับเข้ากับตัวกราฟิกการ์ดของ NVIDIA แต่ในขณะเดียวกันเมื่อทาง NVIDIA เปิด A-Sync (Adaptive Sync) ให้กับผู้ใช้เรื่องนี้เลยเหมือนว่าปัดตกไปเลยครับเพราะการที่เราสามารถเล่นเกมกับจอภาพที่รองรับ A-Sync ตามที่ NVIDIA ระบุไว้ใน Compatible List ปัญหาเรื่องการเลือกซื้อจอภาพที่รองรับเพียง G-Sync ที่มีไม่เยอะในตลาดก็จบไป
NVIDIA GAMING LAPTOPS - GTX 16 Series ( GTX 1660Ti , GTX 1650)
มาถึงพระเอกของตัวงานที่แท้จริงคือกลุ่ม Gaming Laptops (Notebook นั้นเอง) ในสไลด์นี้ทาง NVIDIA บอกกับเราว่า ทุก ๆ 5 ปีประสิทธิภาพของกราฟิกการ์ดสำหรับ Gaming Laptops มันจะดีขึ้น ๆ และสามารถเล่นเกมได้เกิน 100 FPS โดยที่ตัวเครื่อง Gaming Laptops ในตลาดมีมากกว่า 100 กว่ารุ่นจากหลายผู้ผลิตรวมไปถึง Platform ต่าง ๆ ในด้านเกมที่เริ่มเป็นแบบเปิดทั้งจากฝั่ง Developer และผู้ให้บริการ
และสไลด์นี้ที่เรารอคอยคือการบอกเล่าอัพเดตการเปิดตัว GTX16 Series Laptops ซึ่งทาง NVIDIA บอกกับเราว่ามันจะมีมากขึ้น 80 กว่าเครื่องที่ได้รับการรองรับติดตั้งกราฟิกการ์ดรุ่น GTX 1660 , GTX 1660Ti , GTX 1650 จากผู้ผลิต PCs / Laptops ชั้นนำ
GTX 1660Ti for Gaming Laptops
ซึ่งประสิทธิภาพต่อเกมที่เป็นที่นิยมซึ่งส่วนใหญ่รองตัว Driver และกราฟิกการ์ด GTX 16 Series โดยเฉพาะตัว GTX 1660 Ti (Turing) จำมีประสิทธิภาพที่สูงกว่า GTX 1060 (Pascal) เดิม สูงถึง 1.5 เท่า และสูงกว่า GTX 960M ถึง 4 เท่าตัว
เทียบประสิทธิภาพถ้าเราโยกย้ายหรือเปลี่ยน Gaming Laptops ที่ใช้กราฟิกการ์ด GTX 960M สู่ GTX 1660Ti ประสิทธิภาพด้านเกมที่เล่นจะมากกว่าเดิมนั้นหมายความว่าคุณจะได้รับประสบการณ์ใหม่ จากเกมเดิมที่เล่นอยู่แต่ได้ภาพกราฟิกที่ดีกว่าเดิมสูงมาก อย่างน้อยที่เห็นในสไลด์ก็เกม Witcher 3 ล่ะนะ
การก้าวข้ามก้าวผ่านยุคสู่ยุคเพียง 5 ปีการก้าวกระโดดของ Technology กราฟิกการ์ดไม่เพียงแค่นั้นตัวเครื่อง Laptops ก็เปลี่ยนไปบางลงประสิทธิภาพในหลาย ๆ ด้านก็ดีขึ้นด้วยในภาพทาง NVIDIA ยกตัวอย่างรุ่นเครื่องจาก Asus - Zephyrus GU502 Gaming Laptops ที่บางที่สุดเป็นตัวอย่าง
ยุคที่หลายคนอยากได้ Gaming Laptops ที่สามารถแสดงผลได้เกินกว่า 100 เฟรมต่อวิมันไม่ใช่ความฝันอีกต่อไปเมื่อได้ GTX 1660Ti เข้ามาสู่ Laptops Gaming กับหลาย ๆ เกมที่เราอยากเล่นโดยเฉพาะแนว FPS หรือ 3PS บางเกมที่ถ้าเฟรมเรทแสดงผลสูงขึ้นเวลาเล่นมันจะได้ภาพที่สมูทมาก ๆ
เกมยุคใหม่ต้องการพลังประมวลผลกราฟิกที่ยอดเยี่ยมทำงานเร็วและการตอบสนอง
ให้กับผู้เล่นเกมต้องดี แน่นอนว่า GTX 1660Ti คือคำตอบที่ใช่ตามยุคสมัย
ประสิทธิภาพการประมวลผลด้านกราฟิกและการเข้ารหัสถอดรหัส Video ซึ่งตัว GTX 1660Ti สำหรับ Gaming Laptops มีผลช่วยในการประมวลผลทั้งตัวเกมและกราฟิก Video ได้มากทีเดียวยังมีผลทำให้เฟรมเรทสูงขึ้นเข้ารหัสถอดรหัส Video ได้รวดเร็ว ทั้งยังช่วยลดการใช้ประมวลผลให้กับฝั่ง CPU ลงได้เยอะมาก
NVIDIA Optimus - ตัวช่วยที่จะเข้ามาควบคุมการใช้พลังงานใน Laptops โดยไม่ลดทอนประสิทธิภาพการใช้งานของตัว Laptops ก็ยังคงมีอยู่คู่ต่อกับ GTX 1660Ti โดย Lenovo Y540 รุ่นใหม่ที่จะมาพร้อมกับ GTX 1660Ti จะสามารถใช้แบ็ตได้ยาวนานต่อการชาร์จ 1 ครั้ง (ตรงนี้ยังไม่มีข้อมูลว่าใช้ได้ยาวนานกี่ชั่วโมงต่อวันครับ)
รุ่นใหม่ล่าสุดจาก Acer ก็คือตัว Nitro 7 ที่ทำการใส่ GTX 1660Ti เข้ามาแต่มีความโดดเด่นเรื่องจอภาพแบบ HDR , รองรับ NVIDIA G-Sync เป็นตัวชูโรงให้กับรุ่นนี้ของ Acer
มาถึงอีกรุ่นคือ GTX 1650 สำหรับ Gaming Laptop ทาง NVIDIA ยกระบุเทียบกับ GTX 1050 รุ่นเดิมไวว่าประสิทธิภาพการทำงานและความเร็วของ GTX 1650 จะดีขึ้นกว่า GTX 1050 อยู่ที่ 1.7 เท่าและเร็วกว่าตัว GTX 950M สูงถึง 2.5 เท่าเลยทีเดียว
นั้นคือทั้งหมดที่ NVIDIA บอกกับเราเอาไว้รวมไปถึงผู้ผลิต PCs / Laptops ชั้นนำที่จำเข็น Gaming Laptops ที่ทำการติดตั้ง GTX 16 Series เข้ามาให้เราได้เลือกซื้อกันหลังจากวันที่ 23 เมษายน 2019 นี้น่าจะเริ่มได้เห็นและสัมผัสกันล่ะครับตาม Shop IT Outlet ชั้นนำในไทย
มาถึงสไลด์นี้ต้องอธิบายว่าทาง NVIDIA เองได้มองขาดเรื่องนี้อย่างชัดเจนขึ้นคือ
การที่ในปัจจุบันมีผู้ใช้ 2 ฝั่งแต่ยังคงมีการใช้กราฟิกการ์ดรุ่นที่มาจากฝั่ง Games อย่าง GTX และ RTX นำมาใช้งานและไม่ต้องการที่จะทำการอัพเกรด Driver บ่อย ๆ เพราะบางครั้งก็ Render งานอย่างกลุ่มสาย Video Content Creator , สายออกแบบ 3D Render Model
ก็เป็นจุดที่ทำให้ NVIDIA เองเริ่มมองว่าเราควรทำ Driver ใหม่เพื่อกลุ่มคนและลูกค้าให้ชัดเจนขึ้นและลดความสับสนของ ผู้ใช้ว่าควรใช้ Driver ประเภทใดให้เหมาะกับการทำงานนั้นเองเพราะถ้าคิดได้อย่างนึงสำหรับผมแล้วก็มาจากเรื่องของ
"ไลฟท์สไตล์การใช้งานของแต่ล่ะคนไม่เหมือนกันทั้ง ๆ ที่ใช้กราฟิกการ์ดรุ่นเดียวกันแต่กลับรีดพลังจากกราฟิกการ์ดได้ไม่สุดในอีกทางนึงหรือทำงานเฉพาะทางนั้นเอง"
เลยเกิดเป็น Driver ชื่อใหม่ขึ้นคือ
"CREATOR READY DRIVERS"
และตัว Creator Ready Drivers นี้มีผลดีที่จะมาช่วยปรับเร่งความแรงงานประมวลผลเฉพาะ Software ที่สนับสนุนเช่น Software กลุ่ม Adobe ตัวยอดนิยมตั้งแต่ Premiere Pro , Illustrator CC , Photoshop CC ให้สามารถ Render งาน Video หรือการทำภาพกราฟิกได้ประสิทธิภาพที่ดีขึ้นด้วย
เมื่อ Drivers ที่ได้มาใช้งานเฉพาะทางที่ดีขึ้นหมายถึง Workflow ตัวงานที่ทำร่วมกันในกลุ่ม Software ชุดเดียวกันทำงานได้ดีและไวขึ้นและจบ Output ได้ไว้ขึ้นกว่าเดิมด้วย
Driver ชื่อใหม่นี้จะทำมาเพื่อการ Optimize ให้เข้ากับ Software แต่ล่ะตัวสำหรับงานเฉพาะทาง หรือแยกไปเลยสำหรับการเล่นเกม ซึ่งแยกกันชัดเจนจริง ๆ เพราะเมื่อก่อนเวลาจะเรียกชื่อ Driver ของ NVIDIA มันจะเป็นในลักษณะของ ที่คนส่วนใหญ่ติดตาเพียงอย่างเดียวคือ Game Ready Drivers ก็คือ Driver ที่ได้ทำการปรับแต่งแก้ไข Optimizer ออกมาสำหรับคนชอบเล่นเกมโดยเฉพาะ
แต่ชื่อใหม่ที่เกิดขึ้นคือ Creator Ready Drivers ซึ่งจะ Optimize มาช่วยเร่งการทำงานให้เข้ากับ Software กลุ่มนักสร้างสรรค์งานผ่านโปรแกรมเช่น ออกแบบ 3D Model , ตัดต่อ Video , งานออกแบบกราฟิก แต่งรูปภาพที่ต้องการพลังในการประมวลผลที่ดีและสูงขึ้นหรือคำนวณด้านกราฟิกโดยอาศัยพื้นฐานการใช้งานกราฟิกการ์ดรุ่นเดียวกับตัวเกม
แค่จะต่างกันที่ตัว Creator Ready Drivers จะมาพลักดันประสิทธิภาพเฉพาะงานที่ผู้ใช้ต้องการจริง ๆ เฉพาะด้านเท่านั้นครับ นอกจากนี้ลูกค้าของ NVIDIA และผู้ใช้กราฟิกการ์ดจะมีรอบระยะเวลาอัพเดต Drivers เฉพาะตัวกับลักษณะการใช้งานที่แน่นอนกว่าเดิมเช่น ผู้ใช้ฝั่ง Gamers ก็จะได้รับการอัพเดตที่ไวกว่าฝั่ง Content Creators เป็นต้น สาเหตุก็มาจากที่ฝั่ง Content Creators พวกโปรแกรม / Software เขาจะมีรอบการอัพเดตตัวมันเองนานกว่าฝั่ง Gamers อยู่หลายช่วงตัวนั้นเอง
ตัว Drivers Creator Ready สามารถดาวน์โหลดกันได้แล้ววันนี้ - แต่ผมคิดว่ามีให้โหลดกันไปก่อนแล้ว
 |
| https://www.nvidia.com/drivers/beta |
เพราะจากการตรวจสอบพบว่าบนเว็บ NVIDIA ส่วนหน้าของ Support Download Drivers ปล่อยมาพักนึงแล้วครับ
ตัว Driver แบบ Creator Ready Drivers นั้นจะออกมารองรับ Software ประเภทงานกราฟิกทั้งด้านงานออกแบบ CAD , 3D Model รวมไปถึงการประมวลผลภาพ 2D ที่ต้องการประมวลผลภาพที่รวดเร็ว
นั้นก็คือทั้งหมดที่ทาง NVIDIA นำมานำเสนอให้เราได้รับทราบกันครับซึ่งเราคิดว่าน่าจะเป็นประโยชน์ต่อแฟน ๆ NVIDIA และผู้ใช้ที่เริ่มมองหา Gaming Laptops ที่กำลังจะมาพร้อมกับ GTX 1660 , GTX 1660Ti และ GTX 1650 ไม่มากก็น้อย รวมไปถึงเทคโนโลยีที่ทาง NVIDIA นำมาพรีเซนต์และนำเสนอให้เราทราบกันแบบเจาะลึกกันเลยทีเดียว
ขอบคุณ NVIDIA Corporation. ที่เชิญร่วมงานครั้งนี้ครับ
0 ความคิดเห็น