แต่ตอนนี้เราไม่ต้องคลิกไปสั่งแล้ว Walk-In เข้า Official Shop ในไทยได้เลยแถมสีดีไซน์ของตัวเรือนครบ บางร้านออนไลน์ที่ขายสีหมดไม่ครบโดยเฉพาะสีดำจะหมดไวมาก
การเข้าไปที่ช๊อปทำให้เราได้รับการบริการที่ดีด้วยครับพนักงานจะช่วยเหลือและตอบข้อสงสัยทุกอย่าง แล้วถ้าเราซื้อกับช๊อปโดยตรง จากนั้นเอาไปใช้งานหากตัวอุปกรณ์มีปัญหาในระหว่างใช้งานตามเงื่อนไข 7 วันก็เปลี่ยนของใหม่ได้ทันที
![]() |
| สอยเองเจ็บเองหายอยากแล้ว |
TECHNICAL SPECS
Weight: Body 18g, with Strap 32g
Screen type: Transflective color display
Screen material: 2.5D Corning gorilla glass 3rd generation + AF coating
Screen Size: 1.28 inches
Waterproof and Dustproof: IP68 Rating *2
Strap: Length 11 + 8.5cm / width: 20mm
Processor: Mediatek
Sensors: PPG heart rate sensor, triaxial acceleration sensor, geomagnetic sensor, barometric pressure sensor
GPS: GPS + GLONASS dual mode positioning
Connection: Bluetooth 4.0 BLE
Battery: 190mAh lithium polymer
Charging time: 2.5 hours
Battery Life: 45 Days (time display, motion monitoring, sleep monitoring) – GPS continuous track record: 22 hours (time display, motion monitoring, sleep monitoring) GPS continuous use: 22 hours *1
Body material: Polycarbonate
Compatibility: Android 4.4, iOS 8 and above
จาก Spec ข้างต้นก็คงต้องบอกในเรื่องงานออกแบบไม่ใช่จุดสำคัญแต่เป็นเรื่องความอึดของแบ็ตเตอร์รี่ ที่ชาร์จครั้งเดียวอยู่ได้ยาวถึง 45 วัน นับว่าเป็นเรื่องดีมากน่าจะดีกว่า Mi Band 2 ด้วยซ้ำเพราะ Mi Band 2 ชาร์จ 1 ครั้งอยู่ได้ สูงสุด 20 กว่าวัน หรือมากสุด 30 วัน หรือหมดไวสุดก็ 15 - 20 วันนั้นแหละครับ
เป้าหมายในการใช้งาน
ส่วนใหญ่ผมก็เอาไว้ดูเวลา ก็คิดซะว่าดีกว่าซื้อนาฬิกา แต่ได้แค่นาฬิกา แต่เราได้ฟีเจอร์อื่น ๆ แถมมาด้วยมากมาย สำคัญสุดคือใช้วางเป้าหมายในการวิ่ง เพราะเราอยากรู้ว่าเราวิ่งได้กี่กิโลเมตร เดินไปแล้วกี่ร้อยกี่พันกี่หมื่นก้าว อันนี้เอามาเป็นจุดชี้วัดได้สำหรับคนที่ต้องการออกกำลังกายด้วยวิธีเดินหรือวิ่ง เพื่อใช้เก็บสถิติ
Feature อีกอย่างคือ Notifications จาก แอป Mi Fit หรือ 3rd Party แอปตัวอื่น
อันนี้ดีครับ แต่ถ้าเอาจริง ๆ แล้ว Mi Fit นี่ Feature ไม่ได้เยอะหรืออลังการณ์ มันเน้นเจาะการใช้งานจริง ๆ และการแจ้งเตือนบางทีส่งไปที่ตัว Amazfit Bip ก็ไม่หลากหลายเหมือนที่แอป 3rd Party ทำ
ส่วนเรื่องภาษาไทย เท่าที่เข้าไปอยู่ในกลุ่มผู้ใช้งาน Amazfit Club Thailand by Shopdodi.com (เป็นกลุ่มของร้านช๊อปดูดิ) และอีก กลุ่มคือ Xiaomi Amazfit Thailand User Group ก็ได้แลกเปลี่ยนความรู้ และวิธีการอัพ Font ภาษาไทยให้ใช้งานได้ เลยทำให้ Amazfit Bip มันน่าใช้ขึ้นไปอีกหลายเท่าตัว ซึ่งหลายคนที่ทำก็งม ๆ ลองผิดลองถูกกันไปเยอะ แล้วก็เจ็บกับการซื้อแอป ชื่อ Notify & Fitness ราคา 95 บาท (โหลดตัวฟรีมาก่อนค่อยซื้ออีกทีในแอปมัน) มาช่วยอัพโหลด Font ไทยลง Amazfit Bip แถมได้ใช้ฟีเจอร์อื่น ๆ เพิ่มจบในตัว ก็นับว่าคุ้มที่จะลงทุนซื้อ
Notify & Fitness
วิธีการอัพ font แบบย่อ ๆ เข้าใจง่าย นี้ต้องขอบคุณ คุณ Tungway Uthainit Tumpatumdong
" Tungway Uthainit Tumpatumdong รออัพเดตเสร็จ แล้วปิดบลูทูธ ให้มันหยุดการอัพเดต แล้วทำการ factory reset ที่นาฬิกา
1.ลบแอพ Mi fit เวอชั่น 3.2.7.2 ที่เราใช้ทำฟร้อนไทยตามคู่มือ แล้วลงตัวล่าสุด ที่play store คือ 3.3.1
2.เชื่อมต่อนาฬกาอีกครั้ง และรอให้ทุกอย่างอัพเดตเสร็จ font,gps อื่นๆ
3.ทำการติดตั้งฟร้อนด้วย แอพ Gadgetbrige หรือ Notify&fitness (ผมเองใช้ Notify)
4.รอมันเสร็จและพร้อมใช้งาน "
และตัว Font ภาษาไทย จากคุณ Akkaradej Phannaphop ที่พัฒนา Font ภาษาไทยตัวนี้ขึ้นมา ถึงจะยังแสดงผลสระลอยก็ตามที
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
หรือใช้วิธีติดตั้ง Font ของคุณ
Theppabud Pearkaew จากเพจ Xiaomi Amazfit Thailand User Group
ตามนี้ก็ได้เช่นกัน
มาละครับรีวิวติดตั้งฟ้อนท์ไทยให้เจ้า Amazfit Bip
เครดิตฟ้อนท์ไทย (สระยังลอยอยู่นะครับ)
Chavakorn Preechatiwong
Akkaradej Phannaphop
Chavakorn Preechatiwong
Akkaradej Phannaphop
เครดิตวิธีติดตั้งฟ้อนท์ไทย(ที่ง่ายที่สุด)
Sompop Sopon
Sompop Sopon
สิ่งที่ต้องเตรียม
1.ติดตั้งแอพ Mi Fit และแอพ Notify&Fitness ในมือถือให้เรียบร้อย ใครใช้ iOS แนะนำให้ทำใน Android ครับ
2.โหลดฟ้อนท์ไทยลงมือถือที่ติดตั้งแอพจากข้อ 1.
2.โหลดฟ้อนท์ไทยลงมือถือที่ติดตั้งแอพจากข้อ 1.
ฟ้อนท์ไทยแตะโหลดเบาๆ ได้ที่นี่ >>> http://bit.ly/2ExGC5R (ขออนุญาตแปลง Link ครับ)
คำแนะนำหากติดตั้งฟ้อนท์ไทยแล้วไม่ผ่าน
1.ตั้งภาษาเครื่องที่มือถือให้เป็นอังกฤษ ***แนะนำครับ เพราะผมทำตอนใช้ภาษาไทยไม่เคยผ่าน***
2.เข้าแอพ Notify&Fitness เพื่อซิ้งค์ข้อมูลจากแอพ Mi Fit ให้เป็นปัจจุบัน ***ต้องอัพเดทข้อมูลให้เป็นปัจจุบันก่อนนะครับ ไม่งั้นทำไม่ผ่านครับ***
3.ถ้าทำข้อ 2. แล้วซิ้งค์ข้อมูลจาก Mi Fit มาที่ Notify ให้เป็นปัจจุบันไม่ได้ ซิ้งค์ข้อมูลแล้ว Fail (มือถือผมเป็นบ่อย) ***แนะนำให้เข้าตั้งค่าที่มือถือ > ไปที่แอพพลิเคชั่น > หาแอพ Notify&Fitness > แล้วล้าง Cache และล้างข้อมูล > ทำซ้ำข้อ 2.ใหม่
คำเตือน
ก่อนทำอ่านให้เข้าใจก่อนนะครับ เกิดอะไรขึ้นกับตัว Bip ของท่าน ผมไม่รับผิดชอบนะครับ เพราะผมลองทำซ้ำหลายรอบแล้วก่อนทำคลิปรีวิว Bip ผมปกติ ไม่ค้างไม่เอ๋อครับ
ก่อนทำอ่านให้เข้าใจก่อนนะครับ เกิดอะไรขึ้นกับตัว Bip ของท่าน ผมไม่รับผิดชอบนะครับ เพราะผมลองทำซ้ำหลายรอบแล้วก่อนทำคลิปรีวิว Bip ผมปกติ ไม่ค้างไม่เอ๋อครับ
ถ้าพร้อมจะลองแล้วเชิญทำตามคลิปได้เลยครับ ใครทำได้ช่วยอวดผลงานด้วยครับ ใครทำไม่ได้ติดตรงใหนสอบถามในโพสได้ครับ
ขอบคุณครับ
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ส่วนของการใช้งานทดสอบงานวิ่ง ผมได้เข้าสมัครกับงานวิ่ง Samsung Galaxy 10K 2018
ผลออกมาก็ค่อนข้างดีทีเดียวครับวัดระยะแล้วใกล้เคียงกับ Band ตัวอื่น ๆ ของเพื่อน ทั้งตัว Garmin และตัว Apple Watch 2 (ขออภัยไม่มีภาพเทียบเหนื่อยจนลืมถ่ายควบ TT) 

ก็หวังว่าบทบันทึกนี้จะมีประโยชน์เป็นเรื่องราวการลองเล่นลองใช้อย่าง User ใหม่ที่เป็นประสบการณ์การใช้งานจริงเอามาบอกเล่าแชร์ให้คนที่สนใจ Amazfit Bip ได้ตัดสินใจซื้อมาใช้งานไม่มากก็น้อยครับ
Tips
เท่าที่ลองใช้งานหากเปิด Notifications แจ้งเตือนแบบถี่รัว ๆ จะทำให้ตัว Amazfit Bip ทำงานหนักขึ้นและซดแบ็ตมากขึ้นดังนั้นถ้าใครซีเรียสเรื่องการซดแบ็ตก็ปิดได้ผ่านแอปของ Mi Fit และ Notify & Fitness ครับ จะช่วยให้ Save การซดแบ็ตได้มากขึ้นทีเดียว ถ้าใช้แอป Nofity & Fitness ให้เข้าไปที่หัวข้อ App > เลือก แอปที่ต้องการปรับแต่ง > ปรับค่าตามนี้
Repeat Icon 1 Times
Show notification text (เลือกปิด)
Remind every = 0 (ปิดการเตือน)
หมายเหตุ**
เครื่องโทรศัพท์ Android แต่ล่ะรุ่น มีผลต่อความเร็วในการเชื่อมต่อ เท่าที่ลองใช้ในมือเป็น Vivo V9 ค่อนข้างเชื่อมต่อได้ไวดีแต่มีบางอย่างที่ไม่ดีเท่ากับพวก Pure Anroid อย่าง Moto G5 Plus จะทำงานได้ดีกว่าเมื่อเชื่อมต่อและ Sync จะมีความแม่นสูงกว่า อันนี้เหมือนจะคิดไปเองอย่างไรเสีย ถ้าคุณซื้อมาใช้เอง ลองกับมือถือตัวอื่น ๆ ด้วยก็ดีครับ
หากมีข้อสงสัยติชมใด ๆ Comment ไว้ได้ท้ายบทความนี้ครับขอบคุณครับ
ติดตามผมที่เว็บหลัก : www.cyberwakeup.in.th / twitter https://twitter.com/cyberwakeup / Facebook - https://www.facebook.com/cyberwakeup











5 ความคิดเห็น
รบกวนสอบถามค่ะ ตอนนี้มีปัญหา Amazfit Bip ปรกติใช้งานดีและน่าพอใจมากแต่น้องชาย อยากจะได้ facewatch ใหม่ก็ไป Downlod Notify & Fitness แล้วทำไปทำมาเครื่องก็ไม่สามารถเชื่อมต้องกับ smartphone ได้อีกต่อไปเลยค่ะ ตัวนาฬิกาก็ขึ้นแค่รูป smartphone กับการเชื่อมต่อค้างไม่สามารถทำอะไรได้เลยค่ะ รบกวนพอมีวิธีแก้ไขหรือเปล่าค่ะ ขอบคุณค่ะ
ตอบลบ1.ลบ Mi App ปกติครับจำเป็นมากมันจะเป็นตัวคอยช่วยให้การเชื่อมต่อกับตัวเรือนไว้ตลอดครับ และทำให้ตัวแอป Notify & Fitness มองเห็น
ลบ2.การใส่หน้าปัดที่โหลดมาแล้วติดตั้ง ถ้าช่วงแรก ๆ อาจจะงงครับ แล้วที่ค้างนี่บางทีมาจากการติดตั้งไม่ถูกต้อง ทางแก้คือ Reset ที่ตัวเรือนแล้ว ลบแอปในมือถือทั้งหมด ทั้ง Mi App / Notify & Fitness หรือถ้าไม่ลบก็ Unpair มันแล้วหามือถืออีกเครื่องมาทำการติดตั้งแอปใหม่ แล้ว Sign In ใหม่ครับ จากนั้นกด Sync อาจจะมีการอัพ Firmware ใหม่ให้ตรงกับรุ่นตัวเรือนก็คือ Bip น่ะครับ
3. หลังอัพ Firmware ใหม่เพื่อแก้แล้ว ลองเปิด Notify & Fitness อีกครั้งแล้วดูว่า สามารถซิงค์ ค่ากันได้หรือไม่ ถ้าได้อยู่ก็สามารถโหลด หน้าปัดแล้วกด Update เข้าไปยัง Bip ได้ครับ
ที่กล่าวมาเป็นวิธีการเบื้องต้นที่เราทำ
รบกวนสอบถามค่ะ
ตอบลบตอนนี้หน้าปัด Amazfit Bip ค้างอยุ่ที่หน้า Activity กดหรือสไลด์ไม่ได้เลยค่ะ ก่อนหน้านี้คือ ซิงค์กับแอพ mi ไม่ได้
ถ้าเรากด เลิกจับคู่ ข้อมูลล่าสุดที่วิ่งมาจะหายมั้ยคะ ? มันยังไม่ได้ซิงค์กับแอพ mi ค่ะ
ขอบคุณมากค่ะ
ตอนนี้ฟอนต์ไทยสมบูรณ์สระไม่ลอยทำได้แล้วยังครับ
ตอบลบขอสอบถามค่ะ ใช่Amazfit เพิ่งได้มาค่ะ แต่ยังใช่งานไม่เป็น จะตั้งค่าเวลา และ วันที่ให้เป็นปัจจุบันต้องทำยังงัยค่ะ ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ
ตอบลบ